ฟรีไดฟ์ที่ภูเก็ตดีมั้ย? ภูเก็ตมีน้ำลึกแค่ไหน? น้ำที่ภูเก็ตใสมั้ย? จุดไหนในภูเก็ตดำฟรีไดฟ์ดีที่สุด? ดำชอร์ไดฟ์จากหาดได้มั้ย? ฟรีไดฟ์ภูเก็ตใช้เงินเท่าไหร่?
จุดดำน้ำและช่วงเวลาที่เหมาะที่จะฟรีไดฟ์
เพราะภูเก็ตเป็นเกาะและรายล้อมไปด้วยเกาะมากมาย การหาจุดดำน้ำไกล้ๆจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย
เกาะราชาน้อย - ขึ้นชื่อเรื่องน้ำใส น้ำนิ่ง และมีน้ำลึก ที่นี่จึงเป็นจุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการดำฟรีไดฟ์ไม่ว่าจะเป็นฟันไดฟ์ เรียน/สอบ หรือการเทรน
ระยะการมองเห็น : 15+ เมตรในวันที่น้ำไม่ค่อยดี และ 30 หรือแม้แต่ 40+ เมตรในวันที่น้ำดี
ความลึกที่มี : 70+ เมตร
ช่วงเวลาแนะนำ : ดำได้ทั้งปีเพราะเกาะมีลักษณะเป็นแนวยาวเหนือไปใต้ซึ่งบังลมในแต่ละช่วงของปี เราจึงดำได้ทั้งปีเพียงแค่สลับฝั่ง
เดินทางไปได้ยังไง : เรือสกูบ้า(ทุกวัน), หรือจะเหมาสปีดโบ๊ทหรือทริปฟรีไดฟ์จัดโดยร้าน/โรงเรียนต่างๆ
เกาะราชาใหญ่ - เกาะนี้มีจุดดำน้ำชื่อดังที่สุดของภูเก็ตนั่นก็คือ"อ่าว 1"หรือ"อ่าวทือ" ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะราชาใหญ่ อ่าวนี้มีซากเรือหลายลำแม้แต่ซุปเปอร์ยอช์ทลำยักษ์ที่พึ่งจะจมไปเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2566 โดยเรือตั้งอยู่ที่พื้นลึก 20-22 เมตร และดาดฟ้าเรืออยู่ที่ 10 เมตร ซึงเหมาะแก่การถ่ายภาพฟรีไดฟ์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีเรือทัวร์ที่เคยนำมาจมก่อนหน้าอยู่ไม่ไกลกันตั้งอยู่ที่พื้น 20-22 เมตร และดาดฟ้าเรืออยู่ที่ 15 เมตร อ่าวนี้เหมาะแก่การดำในฤดูมรสุมเนื่องจากทิศทางลมฤดูนี้มาจากทางทิศตะวันตกซึ่งจะมีเกาะราชาใหญ่บังอยู่
ระยะการมองเห็น : 6 เมตรวันที่น้ำไม่ดี, และ 30 เมตรในวันที่น้ำดี
ความลึกที่มี : 25 เมตร(แนะนำ) เหมาะสำหรับคนที่วางแผนจะดำไม่เกิน 20 เมตร เกาะราชาใหญ่มีน้ำลึกมากกว่านี้แต่ต้องออกห่างจากเกาะค่อนข้างไกลซึ่งอาจจะเจอกับกระแสน้ำและลมซึ่งอาจพัดให้เราหลุดออกไปทะเลเปิด
ช่วงเวลาแนะนำ : ทั้งปี
เดินทางไปได้ยังไง : เรือสกูบ้า(ทุกวัน), หรือจะเหมาสปีดโบ๊ทหรือทริปฟรีไดฟ์จัดโดยร้าน/โรงเรียนต่างๆ
เกาะพีพี - เกาะพีพีเป็นหนึ่งในเกาะที่สวยที่สุดในบริเวณนี้เมื่อพูดถึงปะการัง สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล และสภาพพื้นที่ เพราะมีถ้ำและหลืบมากมายให้ถ่ายภาพได้แทบไม่มีที่สิ้นสุด
ระยะการมองเห็น : 3 เมตรในวันที่น้ำไม่ดี, และ 15 - 20 เมตรในวันที่น้ำดี
ความลึกที่มี : 25 เมตร
ช่วงเวลาแนะนำ : พฤษจิกายน - เมษายน (ฤดูร้อน) เพราะจุดดำน้ำส่วนใหญ่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึงเป็นทิศทางเดียวกับลมมรสุม ทำให้ไม่เหมาะแก่การดำน้ำในช่วงนั้นของปี นอกจากนี้ทัศนวิสัยยังไม่ค่อยดีในช่วงมรสุมอีกด้วย
เดินทางไปได้ยังไง : เรือสกูบ้า(ทุกวัน), หรือจะเหมาสปีดโบ๊ทหรือทริปฟรีไดฟ์จัดโดยร้าน/โรงเรียนต่างๆ
เกาะเฮ - ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต น้ำรอบๆเกาะเฮไม่ใสมากนัก แต่หากต้องการน้ำลึกที่ไม่ไกลเกาะเฮคือที่ที่ค่อนข้างเหมาะกับการเทรน ในช่วงฤดูมรสุมอาจมีแมงกะพรุนเยอะ จึงควรเลี่ยงช่วงเวลานั้น
ระยะการมองเห็น : 3 เมตรในวันที่น้ำไม่ดี และ 10 เมตรในวันที่น้ำดี
ความลึกที่มี : 30+ เมตร
ช่วงเวลาแนะนำ : พฤษจิกายน - เมษายน (ฤดูร้อน)
เดินทางไปได้ยังไง : เรือหางยาว
ราคา
มีทางเลือกมากมายในการฟรีไดฟ์ เราแนะนำไปกับเรือสกูบ้าหรือทริปของร้าน/โรงเรียนต่างๆเพราะมีครูคอยดูแลและจัดการเรืองความปลอดภัย นอกจากนี้ครูยังรู้จุดดำน้ำ ข้อควรระวังและอันตรายในจุดต่างๆ และเพราะธรรมชาติของกิจกรรมฟรีไดฟ์ที่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ลอยอยู่ผิวน้ำจึงมีความเสี่ยงที่จะประสบอุบัติเหตุกับเรือที่สันจรไปมามากกว่าสกูบ้ามาก จึงควรไปกับครูที่รู้จักสถานที่และคอยดูแลความปลอดภัยได้ ราคาของทริปขึ้นอยู่กับประเภทของเรือและการบริการในทริปนั้น
เรือสกูบ้า - เรือสกูบ้าลำใหญ่ซึ่งไปจุดดำน้ำหลักเป็นประจำ(ทุกวัน) บนเรือมีพื้นที่กว้างและสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย
ข้อดี : ค่อนข้างปลอดภัยไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไรก็ตาม สะดวกสบายจากสิ่งอำนวยความสะดวกแช่นห้องน้ำหลายห้อง อาหารที่ทำสดใหม่บนเรือ พื้นที่กว้างขวาง และบางลำยังมีเรือยางลำเล็กคอยอำนวยความสะดวก
ข้อด้อย : เรือเดินทางได้ช้าจึงเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินทาง เวลาที่จำกัดเนื่องจากเป็นเรือสกูบ้าจึงต้องดำตามตารางสกูบ้านั่นก็คือ 50 นาทีต่อ 1 ไดฟ์ และเบครระหว่างย้ายจุดอีก 1 ชั่วโมง
ราคา : รวมๆ 3,300 - 3,500 บาทต่อคน
ทริปฟรีไดฟ์ - จัดโดยร้าน/โรงเรียนสอนดำน้ำเป็นครั้งคราว เหมาะที่สุดสำหรับการดำฟรีไดฟ์
ข้อดี : ส่วนใหญ่ใช้เรือสปีดโบ๊ทในการเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆเพื่อที่จะได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ดำน้ำตามจุดต่างๆแทนที่จะนั่งเรือนานๆ เนื่องจากร้าน/โรงเรียนเหมาเรือเองจึงสามารถเลือกความลึกได้ตามต้องการ
ข้อด้อย : ลำบากมากหากอากาศไม่ดี พื้นที่น้อยจึงค่อนข้างคับแคบและแออัดหากไปกันแน่นเรือ มีห้องน้ำเล็กๆเพียงห้องเดียวหรืออาจไม่มีเลยถ้าเป็นสปีดโบ๊ทลำเล็ก
ราคา :3,300 - 3,900 บาทต่อคน
เรือหางยาว - ทริปเรือหางยาวจัดโดยร้าน/โรงเรียนสอนดำน้ำเป็นครั้งคราว เป็นทริปที่ราคาถูกที่สุดที่จะดำเกาะไกล้เคียงเช่นเกาะเฮ
ข้อดี : ราคาถูก มีระยะจำกัดแต่ค่อนข้างคล่องตัว สามารถหาจุดน้ำลึกหรือแล่นเรือตามทุนเทรนนิ่งได้ไม่ยากหากปล่อยไหลตามน้ำ
ข้อด้อย : ไม่มีห้องน้ำ อาหารและเครื่องดื่มขึ้นอยู่กับเรือและผู้จัด พื้นที่น้อย มีที่บังแดดและฝนน้อยหรือบางลำอาจไม่มีหลังคาเลย
ราคา : 1,500 - 2,500 บาทต่อคน
ดำน้ำจากหาด
จุดที่ดำน้ำได้จากหาดอยู๋ทางทิศตะวันตกของเกาะภูเก็ตเท่านั้น เนื่องจากทางทิศตะวันออกคืออ่าวพังงาซึ่งมีป่าชายเลนล้อมรอบ น้ำจึงขุ่นและพื้นเป็นโคลนเลน นอกจากนั้นยังตื้นอีกด้วย
ช่วงเวลาแนะนำ : พฤษจิกายน - เมษายน (ฤดูร้อน)
ความลึก : 10-15 เมตร
สิ่งพึงระวัง : การสันจรของเรือ กระแสน้ำและคลื่นลม
จุดดำน้ำที่น่าสนใจอื่นๆรอบๆภูเก็ต
จุดดำน้ำที่น่าสนใจมากจุดหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากภูเก็ตคือขุมน้ำท่าแตงในจังหวัดพังงา ท่าแตงเป็นบึงที่เกิดขึ้นจากการทำเหมืองแร่ดีบุก ในบึงจะสามารถเจอกับต้นไม้ใต้น้ำ ทุ่งสาหร่าย สิ่งปลูกสร้างไม้ที่เหลงเหลือจากยุคเหมืองดีบุก
อุณหภูมิ : 30+ องศา
ระยะการมองเห็น : 2 เมตรในวันที่น้ำไม่ดี (ฤดูมรสุม), 12 เมตรในวันที่น้ำดี(ฤดูร้อน)
ความลึกที่มี : 15 - 17 เมตร
ราคา : 1,500 - 2,000 บาทต่อคน
ข้อดีและข้อด้อย
การดำฟรีไดฟ์ที่ภูเก็ตมีทั้งข้อดีและข้อด้อย
ข้อดี : น้ำใส อุณหภูมิส่วนใหญ่ 30 องศา เรือสกูบ้าออกทุกวัน
ข้อด้อย : จุดดำน้ำอยู่ไกล ค่าเรือจึงอาจมีราคาสูงกว่าที่อื่น
#RachaIsland #Phuket #Freediving #Apnea #Thailand #howisit #SSI #Molchanovs #underwater #เกาะราชา #ภูเก็ต #ฟรีไดฟ์ #ดำน้ำ #ฟรีไดฟ์วิ่ง
Comments